ไชยรัตน์ เบิร์ดฟาร์ม
40/28 ซ.อนามัยงามเจริญ33 แยก5 ถ.พระราม2
แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. 10150
โทร.081- 4076591 ,087-5552545
Chairat_Birdfarm@hotmail.com
www.facebook.com/chairat.birdfarm
Line official : @chairatbirdfarm
Line ID : 0875552545
การป้องกันและการรักษา
นก ก็เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บเหมือนกัน ถ้าขาดการสังเกต การเอาใจใส่ ไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าที่ควรทั้งเมื่อเริ่มมีการเจ็บป่วยก็แก้ไขได้ยาก นกเป็นสัตว์ปีกทีมีขนาดตัวเล็กนิดเดียว ฉีดยาก็อันตราย กินยาก็ยาก จับก็ตื่น ถ้าป่วยมากแล้วมักช่วยเหลือไม่ทัน เข้าทำนองเลี้ยงที่ไรตายหมดทุกที ในที่สุดเกิดความเบื่อหน่ายจะเลี้ยงนก ซึ่งความจริงไม่ใช่ความบกพร่องของนกแต่เป็นความบกพร่องของผู้เลี้ยงเอง
ในการป้องกันโรคให้นกนั้นข้อแนะนำกว้างๆ สำหรับผู้เลี้ยงนกคือ พยายามปฏิบัติการเลี้ยงดูให้ดี แท้จริงแล้วหากนกได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีพอสมควรทั้งในเรื่องน้ำ อาหาร และความสะอาดของพื้นกรง นกก็จะอยู่ได้อย่างปกติสุข ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน การใช้เวลาว่างเพียงวันละ 3 – 4 นาที เพื่อตรวจสุขภาพและส่วนประกอบอย่างอื่น เช่น พื้นกรงหรือที่ใส่อาหาร ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากหรือสิ้นเปลืองเวลาอะไรมากนัก จะทำให้นกมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยให้นกไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย เป็นการป้องกันโรคขั้นพื้นฐานทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงนกมิใช่เป็นของง่ายนัก ทั้งนี้เพราะเราเอามันมาเลี้ยงในกรงซึ่งผิดธรรมชาติที่แท้จริงของนกเป็นอัน มาก ฉะนั้น แม้เราจะรอบคอบและถือหลักภาษิตว่า “ป้องกันดีกว่าแก้”เสมอก็จริง แต่นกที่เราเลี้ยงด้วยประการฉะนี้ เราควรรู้เรื่องการป้องกันและรักษาโรคนก ที่เราเลี้ยงไว้บ้างพอสมควร อย่าปฏิบัติตามมติที่ว่า “ตายก็ฝังยังก็เลี้ยง” เลย
เมื่อปรากฏว่านกมีอาการคอตก เซื่องซึม ยืนโงนเงนไปมา ไม่ร่าเริง กระโดดโลดเต็นเหมือนตัวอื่นๆ ขนนกไม่เรียบ หรือท้องร่วง หรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่น เมื่อผู้เลี้ยงได้เห็นอากัปกิริยาเช่นนี้ต้องเรียบแก้ไขให้ทันก่อนที่จะสาย เกินไป
วิธีการแก้ไขนกป่วยนี้ทำได้โดยผู้เลี้ยงรีบแยกนกที่ป่วยนี้นออกมาต่างหาก แยกออกมาเพียงลำพังในกรงพยาบาล อย่าให้ลมโกรกหรือร้อนอบอ้าวหรือเย็นชื้นจนเกินไป อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับนกป่วยควรอยู่ในระหว่าง 23 – 30 องศาเซลเซียส และควรคงที่ เพราะอหุณหภูมิระดับนี้จะทำให้นกรู้สึกกระหายน้ำและต้องการน้ำมากขึ้น เป็นโอกาสดีที่จะให้นกกินยาได้ ผู้เลี้ยงต้องเอายาแอนตี้ไบโอติคที่รักษาโรคนั้นๆ มาผสมละลายกับน้ำโดยปริมาณที่เหมาะสมโดย เรื่องนี้ผู้เลี้ยงต้องสอบถามจากร้าน จำหน่ายยา หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องยา ป้องกันการแพ้ยาอันจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบันนี้วิวัฒนาการเกี่ยวกับยารักษาโรคนกได้ก้าวหน้ากว่าแต่ก่อนมาก มียาประเภทปฏิชีวนะ ยาประเภทซัลฟา และยาประเภทพิวราโซลิโดน สำหรับใช้รักษาโรคของนกได้อย่างกว่างขวางและได้ผลดีน่าพอใจ ถ้าเข้าใจใช้หรือใช้ให้ตรงกับโรคนั้นๆ และหลังจากที่ได้ให้ยาแก่นกแล้ว ปล่อยให้นกได้อยู่ในกรงเพียงตัวเดียว อย่าพึ่งนำนกที่ป่วยไปรวมเข้ากลุ่ม เพราะจะทำให้เป็นโรคติดต่อถึงกันได้
เมื่อได้แก้ไขนกป่วยเรียบร้อยแล้ว ผู้เลี้ยงจะต้องคิดทบทวนหาสาเหตุที่นกป่วย เช่น อาจเป็นเพราะคอนเกาะไม่สะอาด มีเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อพวกพาราสิตมาเกาะอยู่ได้ ทางที่ดีควรเปลี่ยนคอนอาทิตย์ละอัน หรือถ้าเป็นช่วงผสมพันธุ์ควรจะเปลี่ยน 2 อันต่ออาทิตย์ หรืออาจจะเป็นเพราะอาหาร น้ำ ตลอดจนกรงไม่สะอาดก็เป็นได้ วิธีแก้ไขทำได้โดยใช้ยาฆ่าเชื้อฉีดบริเวณพื้นกรงหรือบริเวณตามที่สงสัยว่าจะ มีชื้อโรคซุกซ่อนอยู่ แต่ก่อนที่จะฉีดยาฆ่าเชื้อใหย้ายนกออกจากกรงก่อน หลังฉีดยาฆ่าเชื้อโรคแล้วทิ้งไว้นานจนแน่ใจว่ายานั้นหมดฤทธิ์แล้วจึงนำนก เข้ากรงดังเดิม
สำหรับโรคพยาธิต่างๆ มีอยู่หลายชนิด ในโรคระบาดติดต่อร้ายแรงบางโรคซึ่งรักษาไม่ได้ เช่น โรคฝีดาษ โรคนิวคาสเซิล โรคหลอดลมอักเสบ ก็พอมีวัคซินป้องกันโรค โดยควรติดต่อกับสัตวแพทย์ให้เป็นผู้แนะนำหรือจัดทำให้ จะได้รับผลดีและปลอดภัยกว่า ส่วนการป้องกันโรคบางโรค เช่น โรคท้องร่วง ท้องเสีย โรคหวัด โรคขนร่วง โรคพยาธิต่าง ๆ การให้กินยานั้นพอมีทางทำได้เหมือนกัน เพราะมียาดี ๆ หลายขนานด้วย หากแต่ผู้ใช้จะต้องระมัดระวังขนาดของยาที่ให้ โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำโดยเคร่งครัด
www.facebook.com/chairat.birdfarm
Line official : @chairatbirdfarm
Line ID : 0875552545
การป้องกันและการรักษา
นก ก็เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บเหมือนกัน ถ้าขาดการสังเกต การเอาใจใส่ ไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าที่ควรทั้งเมื่อเริ่มมีการเจ็บป่วยก็แก้ไขได้ยาก นกเป็นสัตว์ปีกทีมีขนาดตัวเล็กนิดเดียว ฉีดยาก็อันตราย กินยาก็ยาก จับก็ตื่น ถ้าป่วยมากแล้วมักช่วยเหลือไม่ทัน เข้าทำนองเลี้ยงที่ไรตายหมดทุกที ในที่สุดเกิดความเบื่อหน่ายจะเลี้ยงนก ซึ่งความจริงไม่ใช่ความบกพร่องของนกแต่เป็นความบกพร่องของผู้เลี้ยงเอง
ในการป้องกันโรคให้นกนั้นข้อแนะนำกว้างๆ สำหรับผู้เลี้ยงนกคือ พยายามปฏิบัติการเลี้ยงดูให้ดี แท้จริงแล้วหากนกได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีพอสมควรทั้งในเรื่องน้ำ อาหาร และความสะอาดของพื้นกรง นกก็จะอยู่ได้อย่างปกติสุข ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน การใช้เวลาว่างเพียงวันละ 3 – 4 นาที เพื่อตรวจสุขภาพและส่วนประกอบอย่างอื่น เช่น พื้นกรงหรือที่ใส่อาหาร ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากหรือสิ้นเปลืองเวลาอะไรมากนัก จะทำให้นกมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยให้นกไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย เป็นการป้องกันโรคขั้นพื้นฐานทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงนกมิใช่เป็นของง่ายนัก ทั้งนี้เพราะเราเอามันมาเลี้ยงในกรงซึ่งผิดธรรมชาติที่แท้จริงของนกเป็นอัน มาก ฉะนั้น แม้เราจะรอบคอบและถือหลักภาษิตว่า “ป้องกันดีกว่าแก้”เสมอก็จริง แต่นกที่เราเลี้ยงด้วยประการฉะนี้ เราควรรู้เรื่องการป้องกันและรักษาโรคนก ที่เราเลี้ยงไว้บ้างพอสมควร อย่าปฏิบัติตามมติที่ว่า “ตายก็ฝังยังก็เลี้ยง” เลย
เมื่อปรากฏว่านกมีอาการคอตก เซื่องซึม ยืนโงนเงนไปมา ไม่ร่าเริง กระโดดโลดเต็นเหมือนตัวอื่นๆ ขนนกไม่เรียบ หรือท้องร่วง หรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่น เมื่อผู้เลี้ยงได้เห็นอากัปกิริยาเช่นนี้ต้องเรียบแก้ไขให้ทันก่อนที่จะสาย เกินไป
วิธีการแก้ไขนกป่วยนี้ทำได้โดยผู้เลี้ยงรีบแยกนกที่ป่วยนี้นออกมาต่างหาก แยกออกมาเพียงลำพังในกรงพยาบาล อย่าให้ลมโกรกหรือร้อนอบอ้าวหรือเย็นชื้นจนเกินไป อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับนกป่วยควรอยู่ในระหว่าง 23 – 30 องศาเซลเซียส และควรคงที่ เพราะอหุณหภูมิระดับนี้จะทำให้นกรู้สึกกระหายน้ำและต้องการน้ำมากขึ้น เป็นโอกาสดีที่จะให้นกกินยาได้ ผู้เลี้ยงต้องเอายาแอนตี้ไบโอติคที่รักษาโรคนั้นๆ มาผสมละลายกับน้ำโดยปริมาณที่เหมาะสมโดย เรื่องนี้ผู้เลี้ยงต้องสอบถามจากร้าน จำหน่ายยา หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องยา ป้องกันการแพ้ยาอันจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบันนี้วิวัฒนาการเกี่ยวกับยารักษาโรคนกได้ก้าวหน้ากว่าแต่ก่อนมาก มียาประเภทปฏิชีวนะ ยาประเภทซัลฟา และยาประเภทพิวราโซลิโดน สำหรับใช้รักษาโรคของนกได้อย่างกว่างขวางและได้ผลดีน่าพอใจ ถ้าเข้าใจใช้หรือใช้ให้ตรงกับโรคนั้นๆ และหลังจากที่ได้ให้ยาแก่นกแล้ว ปล่อยให้นกได้อยู่ในกรงเพียงตัวเดียว อย่าพึ่งนำนกที่ป่วยไปรวมเข้ากลุ่ม เพราะจะทำให้เป็นโรคติดต่อถึงกันได้
เมื่อได้แก้ไขนกป่วยเรียบร้อยแล้ว ผู้เลี้ยงจะต้องคิดทบทวนหาสาเหตุที่นกป่วย เช่น อาจเป็นเพราะคอนเกาะไม่สะอาด มีเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อพวกพาราสิตมาเกาะอยู่ได้ ทางที่ดีควรเปลี่ยนคอนอาทิตย์ละอัน หรือถ้าเป็นช่วงผสมพันธุ์ควรจะเปลี่ยน 2 อันต่ออาทิตย์ หรืออาจจะเป็นเพราะอาหาร น้ำ ตลอดจนกรงไม่สะอาดก็เป็นได้ วิธีแก้ไขทำได้โดยใช้ยาฆ่าเชื้อฉีดบริเวณพื้นกรงหรือบริเวณตามที่สงสัยว่าจะ มีชื้อโรคซุกซ่อนอยู่ แต่ก่อนที่จะฉีดยาฆ่าเชื้อใหย้ายนกออกจากกรงก่อน หลังฉีดยาฆ่าเชื้อโรคแล้วทิ้งไว้นานจนแน่ใจว่ายานั้นหมดฤทธิ์แล้วจึงนำนก เข้ากรงดังเดิม
สำหรับโรคพยาธิต่างๆ มีอยู่หลายชนิด ในโรคระบาดติดต่อร้ายแรงบางโรคซึ่งรักษาไม่ได้ เช่น โรคฝีดาษ โรคนิวคาสเซิล โรคหลอดลมอักเสบ ก็พอมีวัคซินป้องกันโรค โดยควรติดต่อกับสัตวแพทย์ให้เป็นผู้แนะนำหรือจัดทำให้ จะได้รับผลดีและปลอดภัยกว่า ส่วนการป้องกันโรคบางโรค เช่น โรคท้องร่วง ท้องเสีย โรคหวัด โรคขนร่วง โรคพยาธิต่าง ๆ การให้กินยานั้นพอมีทางทำได้เหมือนกัน เพราะมียาดี ๆ หลายขนานด้วย หากแต่ผู้ใช้จะต้องระมัดระวังขนาดของยาที่ให้ โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำโดยเคร่งครัด
------------------------------------------------
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการติดต่อ
เข้าเยี่ยมชมฟาร์มนกมาตราฐานได้ที่...
ไชยรัตน์ เบิร์ดฟาร์ม
เข้าเยี่ยมชมฟาร์มนกมาตราฐานได้ที่...
ไชยรัตน์ เบิร์ดฟาร์ม
ธงชัย พลเยี่ยม โทร 081-4076591,087-5552545
Line official : @chairatbirdfarm
Line ID : 0875552545
Line official : @chairatbirdfarm
Line ID : 0875552545